การประเมินความเสียสูงสุด (Estimate Mximum Loss, EML) เป็นส่วนที่ช่วยให่เราได้เห็นภาพว่า ความเสียสูงสุดของแต่ละ "ภัย" มีมากน้อยแค่ไหน หากเกิดความเสียหายรุนแรงขึ้น ตรงจุดนี้มัขั้นตอนการประเมินดังนี้ครับ- เริ่มจากดูแผนผัง (Layout) ของ "ภัย" ก่อน ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โรงแรม หรืออาคารต่างๆ เอาแบบแผนผังรมที่เห็นว่ามีอาคารอะไรอยู่ตรงไหน และมีระยะห่างเท่าไหร่ด้วยนะครับ
- สังเกตุว่าแต่ละอาคารทำอะไรบ้าง เช่น การผลิต เก็บสินค้า สำนักงาน โรงอาหาร ฯลฯ
- ทีนี้มา "แบ่งกลุ่มของภัย (Fire Area)" กันครับ ว่าแต่ละอาคารมีระยะห่าง (Spatial Separation) ที่เพียงพอหรือไม่ โดยทั่วไปก็จะประมาณ 10 เมตรขึ้น ถ้าใกล้กว่านี้ก็ถือว่าอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ถ้าจุดไหนมีความเสี่ยงสูง เช่น เก็บสินค้าที่ติดไฟได้ หรือว่า มีสารไวไฟ ก็ต้องเพิ่มระยะห่างมากขึ้น อาจจะประมาณ 20 - 30 เมตรขึ้นไป
- แต่หากว่าในอาคาร หรือระหว่างอาคารมีผนังทนไฟ หรือว่า มีการแบ่งพื้นที่ชัดเจนด้วยวัสดุทนไฟหรือกันไฟ หรอือะไรก็ตามที่ทำให้ไฟไม่สามารถลุกลามข้ามไปยังอีกพื้นที่หนึ่งได้ (Fire Break) ก็สามารถแบ่งพื้นที่ตรงนั้นเป็น กลุ่มย่อยได้นะครับ
- สุดท้าย ก้มาดูว่า "ภัย" กลุ่มไหนที่มีมูลค่าสูงที่สุด ก็ประเมินกลุ่มนั้นเป็นมูลค่าความเสียหายสูงสุด (Maximum Loss) ได้เลยครับ พอได้มูลค่าก็คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ออกมาได้เลย
- แล้วพวก "อุปกรณ์ดับเพลิง "ล่ะ ไม่เอามาคิดเหรือ บอกให้เค้าติดตั้งเยอะ แต่ทำไมไม่คิด.? ตรงนี้เราจะไม่เอามาคิดครับ เพราะว่าสมมติฐานของเราคือ อุปกรณ์ดับเพลิงไม่ทำงานหรือว่าใช้การไม่ได้ จึงจะถือว่าเป็นความเสียหายสูงสุด ...หรือพูดง่ายๆว่า ถ้าเกิดอุปกรณ์ดับเพลิงทำงาน มันก้ไม่เสียหายมากที่สุดน่ะสิ...อันนี้ไม่ได้กวนนะครับ มันเป็นแบบนั้นจริืงๆ ลองคิดดู...
- สาเหตุของความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็มาจากหลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจครับ อาจจะไฟไหม้หรือระเบิด หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความเสียสุงสุดได้
มีภัยกลุ่มหนึ่งครับที่ต้องคิดไม่เหมือนพวกก็คือพวก "ตึกสูง" ครับ ซึ่งมีจุดที่เราต้องสนใจก็คือ พวกช่องเดินท่อน้ำหรือสายไฟระหว่างชั้น ซึ่งมันจะเดินตั้งแต่ขั้นต่ำสุดยันบนสุดเลยล่ะครับ พวกนี้เราเรียกว่า "ช่องเปิดในแนวดิ่ง" แล้วถ้าสมมติฐานของเราคือเกิดไฟไหม้ขึ้น พวกกลุ่มควันหรือว่าไฟสามารถลุกลามไฟตามช่องเปิดพวกนี้ได้ การประเมินสามารถคิดแบบนี้ได้ครับ
- หากว่าช่องแต่ละชั้นถูกปิดด้วยวัสดุกันไฟแล้ว ควันหรือไฟก็จะไม่สามารถทะลุขึ้นไประหว่างชั้นได้ ความเสียหายก็จะลุกลามไปแค่ในพื้นที่จำกัด คิดแบบ 7/7 ก้ได้ครับ คือเสียหายขึ้นลงอีกเจ็ดชั้น...เอาสิ แล้วควันกับไฟ มีแต่ลอยขึ้น แล้วชั้นล่างมันจะเสียหายได้ยังไง...ก็มาจากน้ำดับเพลิงไงครับ...ไหลลงอย่างเดียวเลย ของก็เสียหายได้จากน้ำโลด
- แต่หากช่องเปิดระหว่างชั้นถุกเปิดอยู่...ไม่ต้องสืบครับ เปิดถึงไหนไปถึงนั้น โดยมากถ้าเจอแบบนี้จะคิดว่าเสียหายหมดครับ คงเหลือแค่โครงสร้างประมาณ 25%-30% แล้วแต่ ส่วนที่เหลืออีก 75%-80% ก็คิดเป็นความเสียหายสุงสุดไป
เห็นอย่างงี้แล้ว การวางผังพื้นที่ให้มีระยะห่างระหว่างอาคารที่เพียงพอ ก็ดูจะเป็นรทางออกที่ดี หรือถ้าพื้นที่มันจำกัดก็เพิ่มส่วนของแนวป้องกันไฟ (Fire Break) เข้าไป ก็พอช่วยได้ครับ อย่างน้อยก็ให้เกิดความเสียหายให้น้อยที่สุดภายใต้สมมติฐานที่ว่า "อุปกรณ์" ดับเพลิงใช้การไม่ได้เลย....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น