วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

[26] ไม่มีการผลิต..อย่าคิดว่าไม่อันตราย (Silent Risk)

ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา อาจจะมีหลายๆโรงงานที่ได้รับผลกระทบรุนแรงถึงขั้นต้องหยุดยาวกันเลยทีเดียวครับ มีไม่น้อยเลยที่ต้องหยุดการผลิตไปนานๆ แบบไม่มีกำหนด ช่วงเวลานี้แหล่ะครับ โรงงานมันจะเงียบมาก ทางประกันเค้าเรียกกันว่า "Silent risk" หรือว่าสถานที่เอาประกันภัยที่ไม่มีการผลิตหรือว่าธุรกิจหยุดไปนั่นเองครับ

นอกจากจะเกิดจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว ยังหมายความรวมไผถึงการหยุดการผลิตหรือว่าหยุดดำเนินธุรกิจโดยสาเหตุต่างๆ เช่น


  • ต้นทุนสินค้าแพงจนยิ่งผลิตยิ่งขาดทุน ก็หยุดผลิตซะเลยดีกว่า ...
  • สินค้าที่ผลิตมาขายไม่ออกจนต้องประสบภาวะขาดทุน...ก็หยุดซะเลยดีกว่า
  • ทุนรอนจากผู้ถือหุ้นหดหาย จนไม่มีเงินสำรอง..ก็หยุดซะเลยดีกว่า
โรงงานหรือว่าสถานประกอบการเหล่านี้แหล่ะครับ ถึงแม้ว่าจะหยุดไปแต่ว่าทรัพย์สินยังคงอยู่ ยังมีมูลค่า ถ้ายังไม่ขายหรือว่ายังมีแนวโน้มว่าอาจจะกลับมาผลิตอีกในอนาคต...ก็ต้องทำประกันภัยไว้เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องเสียของไปเปล่าๆ

มันเริ่มจากตรงนี้แหล่ะครับ ถึงแม้ว่าไม่มีกิจกรรมใดๆ แต่ลองนึกดูนะครับว่า...
  • สายไฟโดนขโมย...
  • รปภ. หรือคนเฝ้า สูบบุหรี่ในที่ที่ไม่ควร.. .
  • เครื่องจักรไม่มีการเดินเครื่องเลย ...
  • อาคารปิดร้าง...ดูแลกันไม่ทั่วถึง
  • ของที่อันตรายไม่ถูกจัดการอย่างเหมาะสม เช่น สารเคมีไวไฟต่างๆ
  • มีการจ่ายไฟเพื่อเลี้ยงระบบ..แต่ไม่มีคนดูแล
  • ระบบดับเพลิงก็ถูกปิดไปพร้อมกับโรงงาน...
นี่ยังน้อยนะครับ...ลองจินตนาการดูครับ ว่าถ้าเกิดไฟไหม้จากสาเหตุเหล่านี้ ความเสียหายจะมากมายขนาดไหน...ก็ไม่มีคนดูนี่ครับ ใครจะมาวิ่งตะโกนบอก "ช่วยด้วย! ไฟไหม้!" อย่างที่ซ้อมกันมา

เพระาฉะนั้นสิ่งสำคัญสำหรับ silent risk หรือว่าสถานประกอบการที่ไม่มีการผลิตหรือว่าธุรกิจหยุดไปนั้น ควรจะมีการดูแลเป็นอย่างดี หรือว่าดีกว่าตอนสภาวะปกติด้วยซ้ำ เช่น
  • มีการเฝ้าดูระวังอย่างดีตลอดเวลา
  • เครื่องจักรต่างๆ ต้องหมั่นมาดูแล เพื่อจะได้พร้อมใช้งาน หากต้องการ
  • ระบบดับเพลิงยังคงต้องพร้อมใช้ตลอดเวลา..อันนี้สำคัญมาก
ทำได้แค่ 3 ข้อนี้ ก็ช่วยลดความเสี่ยงไปได้เยอะแล้วครับ ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น