ตอนนี้ถ้าไม่เอ่ยถึงน้ำท่วมก็คงกระไรอยู่ใช่มั้ยล่ะครับ ก็แหงล่ะ ไม่ว่ามันจะไปที่ไหน ก็ย่อมสร้างความเสียหายได้อยู่เสมอๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เพียงหยดน้ำเล็กๆ ก็ตาม
มันเป็นอะไรที่เสียใจมากพอดูครับ ก็เนื่องมากจากว่า มันเป็นเหตุการณืไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น 2 ปี ติดต่อกัน !!! แล้วเชื่อมั้ยครับว่า คำถามที่ผมมักจะถามทางลูกค้าในปีนี้ในส่วนของภัยธรรมชาติเรื่องของน้ำท่วมก็คือ
" แหม โชคดีจังนะครับ ปีนี้น้ำยังไม่ท่วมเลย..."
"ไม่ทราบว่าปีนี้เรามีมาตรการรับมือกับน้ำท่วมยังไงบ้างครับ..."
"ผมไม่แน่ใจว่าโรงงานของเราอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมหรือเปล่าครับ..."
"อาคารของเราส่วนใหญ่อยุ่สูงหรือว่าต่ำกว่าระดับพื้นด้านนอกครับ.."
และคำถามอื่นๆ อีกมากมายที่ถูกถามออกไปด้วยความเป็นห่วง และรอคอยคำตอบจากลูกค้า...และแล้ว คำตอบน่ะหรือครับ...
"ปีนี้ทางนิคมเค้าติดตั้งเครื่องสุบน้ำเพิ่มนะ...แนวคูน้ำก็เคลียร์แล้วเรียบร้อย พร้อมรับมือเต็มที่..."
"นิคมฯ เค้าทำเขื่อนดินเพิ่มขึ้นอีก เมตรกว่า ปีนี้ไม่น่าห่วงครับ..."
"มีคนประจำตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ ฉุกเฉินรวมพลได้ทันที..."
"แผนป้องกันน้ำท่วมมีการทำเป็นเอกสารแล้วครับ ... พร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที.."
และก็คำตอบอื่นๆ อีกมากมายที่แสดงถึงความมั่นใจในการรับมือน้ำท่วมในครั้งนี้...
แต่...ใครจะคิดล่ะครับว่า คล้อยหลังไม่กี่วันที่ได้เข้าไปในนิคมฯ สหรัตนนคร...น้ำเจ้ากรรมก็เล่นงานทันทีตอนนตี 3 ...โทรไปถามพี่ที่ทำงานอยุ่ในนั้น เค้าบอกว่าหนีออกมาแทบไม่ทัน โกลาหลน่าดู..รถคลัชพังอีกต่างหากเพราะว่าลุยน้ำออกมา
เหยื่อรายต่อมาก็คือนิคมฯ โรจนะ ที่มีลูกค้าอยู่เพียบ...ไฮเทค ..บางปะอิน..นวนคร..ก็โดนท่วมตามกันมาติดๆ...อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดซะด้วย...
ถ้าถามถึงการป้องกันน้ำท่วม..มันอาจจะตอบแบบขวานผ่าซากไปหน่อย แต่คงทำได้เพียงป้องกันตัวเองโดยการทำเขื่อนป้องกันน้ำเข้าพื้นที่ ยกของสำคัญขึ้นเหนือระดับน้ำที่คาดการณ์ไว้ วักซ้อมการอพยพผู้คน เตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออก...หริืออะไรทำนองนี้
แต่ว่าหากเจอมวลน้ำขนาดนี้..ก็คงต่อกรด้วยยากล่ะครับ ทางเดียวที่จะแก้ไขได้ก็คือ การแก้ไขถาวรโดยการวางระบบการระบายน้ำที่ดี วึ่งก็ต้องมาจากการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน...ผมว่านี่แหล่ะที่ยากที่สุด หึหึ...
เจ็บปวดครับเจ็บปวด ....ถ้าไม่มีแผนแม่บทเรื่องป้องกันน้ำท่วมซะตั้งแต่ตอนนี้...ปีหน้าก้ได้สู้รบปรบมือกับน้ำท่วมอีกรอบล่ะครับ...ท่าทางจะหนักหนาสาหัสขึ้นเรื่อยๆ ซะด้วย...คราวหน้ามาว่ากันเรื่องมูลค่าความเสียหายกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น